พิสูจน์ความดุดันไม่เกรงใจใครของ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่’

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

พิสูจน์ความดุดันไม่เกรงใจใครของ ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่’

ฟอร์ด ประเทศไทย เนรมิตรสนามทดสอบออฟโรดสุดโหดต้อนรับคณะสื่อมวลชนเพื่อร่วมทดสอบและพิสูจน์สมรรถนะของ “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” สุดยอดรถกระบะสมรรถนะสูงสำหรับคอออฟโรดตัวจริง ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Ford Ranger Raptor Unbeatable Experience’ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่อัน ‘#ดุดันไม่เกรงใจใคร’ บนเส้นทางออฟโรดที่พร้อมโชว์สมรรถนะและฟีเจอร์อันโดดเด่นของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในเซ็กเมนต์รถกระบะ ณ Ford Ranger Off-road Track อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

กมลชนก ประเสริฐสม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย และตลาดอาเซียน เปิดเผยว่า การทดสอบขับขี่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนจะได้รับประสบการณ์ความดุดันบนเส้นทางออฟโรดอย่างเต็มรูปแบบของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ฟอร์ดเล็งเห็นว่า นอกจากลูกค้าจะรักฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ จากรูปลักษณ์ สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม แล้ว ลูกค้าฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ยังเป็นกลุ่มคนที่มีใจรักความท้าทาย และมีเอกลักษณ์ในการใช้ชีวิตของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวพักผ่อน หรือการขับรถที่สะท้อนความเป็นตนเอง จึงมั่นใจว่าฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ 3.0 ลิตรจะสามารถครองใจผู้บริโภคได้ในวงกว้าง และการทดสอบขับรถบนสนามออฟโรดนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์สมรรถนะของรถให้ลูกค้าได้เห็นถึงความโดดเด่นของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่สมกับฉายา ‘ดุดัน ไม่เกรงใจใคร’ และสมกับความคาดหวังของลูกค้าอย่างแท้จริง

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

สื่อมวลชนได้รับฟังการบรรยายข้อมูลของสถานีการขับขี่ในสนามออฟโรดทั้ง 9 สถานี ด้วยอุปสรรคและความท้าทายในสนาม ผู้ขับขี่จะสัมผัสถึงความสนุก ตื่นเต้นเร้าใจ และเข้าถึงสมรรถนะอันทรงพลัง และความชาญฉลาดของเทคโนโลยีในรถฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เพื่อเอาใจคนรักการขับขี่ออฟโรด ที่พร้อมท้าทายทุก รูปแบบด้วยฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

เริ่มต้นความเร้าใจด้วยสถานีแรก ผู้ขับขี่จะได้ทำความคุ้นเคยกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ด้วยการขับรถขึ้นลงเนินชันประมาณ 21 องศา ด้วยเกียร์ต่ำขับเคลื่อน 4ล้อ (4L) ใช้กล้องรอบคัน 360 องศา รวมถึงหน้าจอสถานะออฟโรด ที่จะช่วยให้สามารถมองเห็นสถานะของตัวรถ และอุปสรรครอบคันได้อย่างชัดเจน  ต่อเข้าสู่สถานีที่สองเพิ่มความเข้มข้นของการขับขี่ขึ้นลงเนินชันกว่า 25 องศา พร้อมด้วยการทดลองใช้ ระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด หรือTrail Control ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีในฟอร์ดเรนเจอร์แร็พเตอร์เพียงรุ่นเดียวในตลาดรถกระบะ ระบบจะช่วยควบคุมความเร็วขณะขับขี่บนเส้นทางออฟโรด ผู้ขับขี่เพียงควบคุมพวงมาลัยเท่านั้น ทำให้เราสามารถผ่านเส้นทางการขับขี่อันท้าทายทั้งในระหว่างขึ้นและลงเนินชันไปได้อย่างง่ายดาย

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

ต่อด้วยการขับผ่านสะพานแคบที่ใช้กล้องรอบคัน 360 องศา รวมถึงหน้าจอออฟโรดที่มองเห็นเส้นแนวล้อเพื่อช่วยกะระยะและเสริมความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ระหว่างขับผ่านอุปสรรคบนทางออฟโรด

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์

จากนั้นสื่อมวลชนได้ทดลองใช้โหมดการขับขี่ที่ออกแบบมาให้ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ฝ่าฟันได้ทุกสภาพพื้นที่ โดยเริ่มจากการไต่เนินหินด้วยการใช้โหมดหินและเปิดดิฟล็อกแบบไฟฟ้าเพื่อควบคุมการทรงตัวของรถให้ไต่เนินและผ่านอุปสรรคไปต่อที่สถานีที่จะพิสูจน์ความเป็นสุดยอดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง กับบททดสอบความ ‘#ดุดันไม่เกรงใจใคร’ ด้วยการขับขี่ในโหมดบาฮา พร้อมการใช้เกียร์สูงขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ขับผ่านเนินกระโดดติดต่อกัน เข้าสู่เส้นทางคดเคี้ยวด้วยการขับแบบสลาลอม นอกจากผู้ขับขี่จะสัมผัสถึงความเร้าใจตามแบบฉบับของคอออฟโรด ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังโชว์ให้เห็นถึงสุดยอดของระบบกันสะเทือนของโช้คอัพ FOXTM ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการขับขี่ความเร็วสูง และช่วยในการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น   หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนการขับขี่เป็นโหมดทรายทดลองขับขี่ไปผ่านแอ่งทรายที่มีความร่วนสูง โดยระบบจะปรับอัตราการส่งกำลัง อัตราการทดเกียร์ และการทรงตัว เพื่อรักษาสมดุลการเคลื่อนที่ของตัวรถได้มากขึ้น จากนั้นเปลี่ยนกลับมาเป็นการขับขี่ด้วยโหมดบาฮาเพื่อสัมผัสกับความนุ่มนวลแต่มั่นคงของโช้คอัพ FOXTM อีกครั้งบนเส้นทางขรุขระหลุมบ่อ ส่งท้ายความดุดันให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงความสนุกสนานกับเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ กับการขับขี่บนทางตรงด้วยความเร็วสูงในโหมดบาฮา ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ อัตราเร่ง ช่วงล่าง และรอบเครื่องยนต์ที่ปรับจูนกันได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ สู่คอออฟโรดตัวจริง

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ตลอดการพิสูจน์สมรรถนะของรถในพื้นที่สมบุกสมบันต่างๆ นั้น สื่อมวลชนได้สัมผัสประสิทธิภาพของโช้คอัพ FOXTMขนาด 2.5 นิ้ว ทั้งแบบ Internal Bypass ของรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และแบบ Live Valve Internal Bypass ของรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ที่ให้ทั้งความนุ่มนวลบนถนนเรียบและความแข็งแรงในการขับขี่บนสภาพพื้นผิวออฟโรดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ โดยเฉพาะ ไปจนถึงการออกแบบตัวรถที่บึกบึน ทั้งโครงด้านข้าง และซุ้มล้อขนาดใหญ่ จนถึงตัวถังที่มีระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground Clearance) 272 มม. พร้อมสำหรับการลุยในทุกพื้นที่ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ยังออกแบบมา ให้มีทั้งความเป็นเอกลักษณ์สไตล์ Raptor และยกระดับให้พร้อมสำหรับทุกการผจญภัยไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า F-O-R-D ที่โดดเด่นสะดุดตา ไฟหน้ารูปตัว C แบบเมทริกซ์ แอลอีดีอัจฉริยะ แผ่นโลหะกันกระแทกใต้ท้องรถชนิดพิเศษ Raptor ไปจนถึงภายในที่ใช้เบาะหนัง และหนังสังเคราะห์ เฉพาะแบบ Raptor มอบความสะดวกสบายเหนือระดับด้วยห้องโดยสารที่บรรจุแผงหน้าปัดที่มีหน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว เติมเต็มให้ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เป็นรถที่ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของรถที่มีใจรักในกิจกรรมสมบุกสมบันอันสมบูรณ์แบบในทุกด้าน

ทดลองขับ

Visitors: 2,038,803