ไม่สนิท! อย่าติดตลก! กับ BMW S1000 XR

• โปรยหัวซะ ดุมาก !!  แต่ไม่เกินความจริงสำหรับบิ๊กไบค์ BMW S1000 XR เรียกได้ว่าโดดเด่นแบบเอ็นดูโร่ทัวร์ริ่งสไตล์สปอร์ตจากเยอรมัน พร้อมกันนั้นยังเพิ่มความแตกต่างอย่างลงตัวในทุกจังหวะการขับขี่ ทั้งถนนสายหลักและสายรอง ที่พร้อมพุ่งทะยานไปข้างหน้าแบบดุดันทันทีที่เปิดคันแรงแม้กระทั่งเกียร์ 6 !!! ถ้าไม่คุ้นเคย อย่าห้าว!!!

• BMW S1000 XR ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 1,000 ซีซี แบบสี่จังหวะ 4 วาล์ว มีแรงม้าอยู่ที่ 160 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที ส่วนระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์เป็นแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ เพิ่มสมรรถนะแห่งการขับขี่ด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมกับ Pro Shift Assistant หรือ quick shift ของ BMW ที่ทำงานได้ทั้ง ขึ้นและลง เพิ่มความสบายในการขับขี่อย่างมาก การเปลี่ยนเกียร์ของ S1000 XR ทำได้นุ่มนวล และให้กำลังที่ต่อเนื่อง ซึ่งคนซ้อนนั่งสบายแทบไม่มีอาการเด้งหน้า-เด้งหลัง ในส่วนของระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นแบบหัวฉีด ที่รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ 95 ขึ้นไป ความจุของถังน้ำมัน 17.5 ลิตร หากเติมเต็มถังจะขับได้ราว 200 - 250 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับการบิดคันเร่ง 

•การขับขี่โดยใช้งานท่ามกลางการจราจรติดขัด เพียงปล่อยคลัตช์ก็ไหลยาวๆทำให้การขี่ BMW S1000 XR ที่ต้องฝ่าการจราจรนั้นจะต้องกำคลัตช์มากกว่าปกติ แต่การเดินคันเร่งในเมืองสภาพการจราจรติดขัดขับขี่ได้ไม่ยาก เพราะเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ของ BMW S1000 XR มีแรงบิดสม่ำเสมอและยาวต่อเนื่อง ทำให้การเดินคันเร่งนิ่มนวลรับกับน้ำหนักของตัวรถที่มีน้ำหนักรวม 207 กิโลกรัม

• สิ่งที่ดูโดดเด่นอีกจุดหนึ่ง คือ การ์ดแฮนด์ที่มีขนาดใหญ่อลังการ รับกับกระจกมองข้างที่กว้างทำให้การมองหลังเห็นได้ชัดเจน ด้วยความกว้างของมันช่างพอดีกับช่วงถนนเมื่อรถติดขนานกันสองเลนจะทำให้ซอกแซกไม่ได้ แต่หากมีช่องที่มุดได้ BMW S1000 XR ทำได้ดีเกินคาดทั้งนี้ด้วยการวางน้ำหนักบาลานซ์ของรถทำได้ดีมาก ช่วยให้โยกรถไปมาได้ค่อนข้างง่ายไหลไปได้เรื่อยๆ การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ นอกจากต้องอาศัยทักษะแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่าง คือ เรื่องของการวางเท้าซึ่งสำคัญมาก หากไม่ชำนาญแค่หักเลี้ยวช้าๆ คุณก็ “ล้มแปะ” เอาง่ายๆ ในส่วนของการใช้งานในเมืองจะมีเรื่องความร้อนของตัวรถเข้ามาเกี่ยวข้อง หากจอดติดไฟแดงนานๆก็ส่งไอความร้อนขึ้นมาด้านข้างขา ถ้าติดไฟแดง        นานมากๆ การดับเครื่องก็ช่วยได้และยังช่วยลดไอเสียอีกทั้งยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย

• BMW S1000 XR ยังมีเทคโนโลยีการขับขี่ให้เลือกสรรใน Mode ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Mode Rain ,Mode Road และ Mode Dynamic ส่วนการตอบสนองของช่วงล่างปรับตั้งได้อีก 2 ระดับ คือ Road / Dynamic ทั้งยังปรับน้ำหนักในการบรรทุกได้ 3 ระดับ คือ ผู้ขับขี่ / ผู้ขับขี่ และสัมภาระ / ผู้ขับขี่ และคนซ้อน รวมสัมภาระ สำหรับโหมด Mode Rain ,Mode Road และ Mode Dynamic จะทำการปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ รวมถึงการตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้า และยังคำนวณการทำงานของ ABS, ASC/DTC และ Dynamic ESA ให้อย่างเหมาะสมอีกด้วย ระบบเบรกล้อหน้าเป็นแบบดิสก์เบรกคู่ มีขนาด 320 มิลลิเมตร ของ Brembo ส่วนระบบเบรกล้อหลังเป็นดิสก์เบรกขนาด 220 มิลลิเมตร ของ Brembo เช่นกัน พร้อม ABS ช่วยให้มั่นใจในสมรรถนะแห่งการหยุดรถได้อย่างดี พร้อมกันนั้น BMW S1000 XR ก็ยังมีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบ Telegospic ขนาด 46 มิลลิเมตร มีระยะยุบตัวอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนของล้อหลังเป็นแบบ สวิงอาร์มคู่ โดยมีระยะยุบตัวอยู่ที่ 130 มิลลิเมตร การขับขี่นอกเมืองจะสบายขึ้นด้วยปุ่มควบคุม Cruise Control ที่ใช้งานได้ง่ายทำงานในช่วงความเร็วระหว่าง 20 -210 กม./ชม.  

• รูปโฉมภายนอกของ BMW S1000 XR ค่อนข้างใหญ่ แฮนด์และกระจกกว้าง หน้า-ท้ายยาว แฟริ่งหน้ากว้าง โดยขนาดความยาว คือ 2,057 มิลลิเมตร ส่วนความกว้างอยู่ที่ 845 มิลลิเมตร และความสูงอยู่ที่ 1,228 มิลลิเมตร ซึ่งผู้ทดลองขับขี่สูง 170 ซม. ต้องมีเขย่งเท้าบ้าง เมื่อขับขี่และเลี้ยวเข้าโค้ง ทำได้ดีทั้งโค้งกว้าง โค้งแคบ การเดินทางไกลด้วย BMW S 1000 XR ยังให้ความมั่นใจในการขับขี่ เรียกได้ว่า BMW S 1000 XR ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการเดินทางไกลบนถนนหลัก (ถนนดำ) ขี่ไปเพลินๆบนความเร็ว 100-120 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ 4,000 – 5,000 rpm เป็นช่วงที่กำลังนุ่มนวลไหลลื่นทีเดียว หากต้องการเร่งแซงแบบกะทันหันช่วงเกียร์ 6 ทำได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าหากจะให้ทันใจก็ตบเกียร์ลงและให้รอบเครื่องอยู่ที่ 7,000 – 8,000 rpm เพียงเท่านี้ตัวรถก็พร้อมพุ่งทะยานออกไปอย่างทันใจ นอกจากนี้ตัวรถยังมีการติดตั้งชิวบังลมหน้า ซึ่งปรับระดับได้ 2 ระดับ (ต่ำ-สูง) โดยใช้มือดึงขึ้นลง เมื่อต้องเดินทางไกลปรับไว้ตำแหน่งสูงจะช่วยให้ไม่ต้านลม ส่วนเรือนไมล์สามารถแสดงข้อมูลการขับขี่ได้หลากหลาย อาทิเช่น ระยะทางรวม-ODO / Trip 1 / Trip 2 / อัตราสิ้นเปลือง / ระยะทางที่วิ่งได้ / ความเร็วเฉลี่ยของการเดินทาง

• หากคุณกำลังมองหามอเตอร์ไซค์ที่มีแรงบิดต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการขับขี่หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมืองหรือออกทริปเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัด รวมไปถึงการขับขี่แนวผจญภัย BMW S 1000 XR ทำได้อย่างเยี่ยมยอด ส่วนราคาคุ้มค่าสมกับสมรรถนะและเทคโนโลยีต่างๆที่ให้มากับรถจักรยานยนต์ BMW S1000 XR คันนี้ พิสูจน์ความแรงและสมรรถนะของ BMW S1000 XR ได้ด้วยตัวคุณเอง สนนราคาที่ 890,000 บาท

07.09.59 / เรื่อง : สุพัฒน์ นาคฤทธิ์ / ภาพ : นรินทร โชติภิรมย์กุล